ฆ่าโหดสาวไทยในไต้หวัน ทิ้งศพลงเขา เชื่อนายจ้างลวงไปฆ่าชิงทรัพย์

– ผู้ตายมีแฟนเป็นชายชาวไทย ที่ได้เข้ามาทำงานเป็นแรงงานในเขตซินจู๋

-ผู้ตายได้เคยโพสหางานทำในไต้หวัน และได้รู้จักกับผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม

-ผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม เป็นหญิงชาวไทยอายุประมาณ 40ปี แซ่หลิน เดิมถือสัญชาติไทย ภายหลังแต่งงานกับคนไต้หวันและสละสัญชาติไทย ถือสัญชาติไต้หวัน (ดังนั้นถือเป็นคนไต้หวันตามกฏหมาย)

– ผู้ตายตอนมาไต้หวัน ได้ขออาศัยพักกับ นางหลิน (ชาวไทยที่ได้สัญชาติไต้หวัน) ที่เป็นผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม ได้เคยพักอยู่ด้วยกัน 2-3วันที่บ้านของนางหลิน โดยขอทำงานบ้านตอบแทนแลกกับเงินและค่ากินอยู่

-ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 10 พค แฟนหนุ่มของผู้ตายได้รับข้อความจากผู้ตายว่า “ พี่หลินได้พาขี่จักรยานยนต์ขึ้นเขา มาช่วยที พร้อมส่งโลเคชั่นให้แก่แฟนหนุ่ม”

**สื่อไต้หวันลงว่า ผู้ตายกับผู้ต้องสงสัยสนิทกันเหมือนพี่น้อง และผู้ตายเรียกผู้ต้องสงสัยว่า พี่… (ไม่ใช่เป็นพี่น้องสายเลือดแท้ๆค่ะ)

-หลังจากแฟนสาว(ผู้ตาย) ขาดการติดต่อ แฟนหนุ่มที่อยู่ซินจู๋ได้โทรหาเพื่อนคนไทยที่พูดจีนได้(อยู่เขตฮวาเหลียน) ให้ช่วยแจ้งความให้ ดังนั้นเพื่อนคนไทยที่อยู่ฮวาเหลียนจึงโทรแจ้งความในเขตพื้นที่ฮวาเหลียน

– เจ้าหน้าที่เขตฮวาเหลียนรับเรื่อง และส่งให้ตำรวจเขตพื้นที่จีหลง (เพราะโลเคชั่นที่เกิดเรื่องอยู่จีหลงค่ะ) ทำการค้นหา โดยแฟนหนุ่มพาเพื่อนชาวไทย2 คนไปช่วยหาด้วยพร้อมเจ้าหน้าที่ในวันที่ 11 พค

-บนจุดเกิดเหตุพบ รอยเลือด และค้นหาสักพักถึงพบร่างของผู้ตายติดอยู่บนกิ่งไม้ ถ้าไม่ติดอยู่และตกลงไปลึกในเขาคงพบยากกว่านี้จากคำให้การเจ้าหน้าที่

-การชันสูตรเบื้องต้น พบรอยมีดแทงหลายจุด ทำให้เสียเลือดมาก แต่ไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่สาเหตุการตายมาจากเสียเลือดมากจากบาดแผล ซึ่งกว่าจะพบก็เสียชีวิตแล้ว

-ทางตำรวจได้ภาพวงจรปิด พบรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายนั่งไปพร้อมกับผู้ก่อเหตุ และได้ตามจนพบจักรยานยนต์

-ผู้ต้องสงสัยหลังจากถูกคุมตัว ให้การปฏิเสธเรื่องฆ่า เธอให้การว่า ”มีปากเสียงกัน พาผู้ตายไปขึ้นเขา แต่เธอไม่ได้ฆ่า ไม่ได้แทงผู้ตาย และได้ขี่จักรยานยนต์ลงเขามาคนเดียว…ผู้ตายพลัดตกเขาเอง!!”

-ทางตำรวจพบรอยเลือดจากที่เกิดเหตุบนพื้นเป็นรอยทาง และพบรอยเลือดที่ติดกับรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุซึ่งส่งตรวจแล้ว

-ตำรวจสันนิษฐานจากหลักฐานและรอยเลือดว่า ผู้ตายถูกมีดแทงก่อนที่จะตกลงเขา สาเหตุการตายคือ เสียเลือดมากไปจากบาดแผล

-เนื่องจากผู้ต้องสงสัยให้การวกวนไร้น้ำหนัก ไม่มีเหตุผลพอในการยื่นประกันตัว ทางศาลได้ตั้งข้อหามาตรา 271/1 : ผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม , หลบหนี และ มีหลักฐานที่โยงถึงคดี ศาลสั่งฝากขังและห้ามเยี่ยมห้ามติดต่อกับภายนอกทุกกรณี

รายละเอียดข่าวสื่อทางการไต้หวันแถลงตามนี้ค่ะ ที่ทางตำรวจชี้แจง และศาลพิจารณา ส่วนหากพบหลักฐานมากกว่านี้ หรือผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ ยังไงอาจต้องขึ้นศาลอีกครั้ง

ส่วนดราม่าว่าเป็นพี่น้องฆ่ากัน นายจ้างฆ่า ทำงานร้านนวดเอย สื่อทางการไต้หวันไม่ได้มีลงค่ะ (แอดเอามาจากล่าสุดข่าวเช้านี้)

ย้ำ!! วีซ่าท่องเที่ยวไต้หวัน14 วัน (ไม่สามารถทำงานได้ค่ะ) , วีซ่าเยี่ยมญาติ ได้ตามสถานทูตกำหนด ซึ่งต้องมีหลักฐานชัดเจนประกอบการยื่น แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้เช่นกัน ตามกฎหมาย