ความคืบหน้า คดีฆาตกรรม น.ส.เบญจรัตน์ หรือ น้องครีม อายุ 21 ปี ซึ่งพบเป็นศพเสียชีวิต ถูกทิ้งในพงหญ้า บริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 144 อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ตั้งเเต่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่เเม่ เเละครอบครัว ได้โพสต์ประกาศออกตามหาว่าลูกสาวหายตัวไป.
จนต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลจังหวัดเพชรบุรี อนุมัติออกหมายจับ เลขที่ 221/67 เพื่อจับกุมตัวนายอนุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) หรือ นายนุ ในข้อหา 1.ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 2.ลอบฝังศพ , ซ่อนเร้น , ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือสาเหตุแห่งการตาย
โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายนุได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทันที ก่อนจะนำตัวมายัง สภ.เขาย้อย เพื่อทำบันทึกจำกุมตั้งแต่กลางดึกวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศเช้าวันนี้ 10 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชุมเครียด พร้อมตรึงกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยจู่โจมภาค 7 เพื่อเตรียมคุมตัว นายนุไปทำแผนประกอบคำสารภาพตามจุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ในการก่อเหตุ รวมถึงเตรียมเสื้อเกราะให้ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะทำแผนด้วย.
ขณะเดียวกันที่ สภ.เขาย้อย ก็มีแม่กับพ่อเลี้ยงของ น้องครีมเดินทางมาทำเอกสารขอรับใบมรณบัตรลูกสาว รวมถึงอยู่รอดูหน้าผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากพ่อแม่บอกว่าหลังเห็นรูปผู้ต้องหาหรือ นายนุ แล้ว ไม่รู้จักว่าเป็นใคร ไม่คุ้นทั้งชื่อและหน้าตา
กระทั่งเวลา 09.25 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายนุ ออกจากห้องขัง เพื่อพาขึ้นรถตู้ไปทำแผนประกอบคำสารภาพตามจุดต่างๆ นั้น ทีมข่าวพยายามสอบถามเจ้าตัวถึงสาเหตุในการฆ่า รู้จักกับผู้ตายมาก่อนมั้ย แล้วนัดหมายกันช่องทางไหน แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ มีเพียงแค่พฤติการณ์ก้มหน้าไปเฉยๆ ภายใต้การสวมแมสและหมวกปกปิดสีหน้าแววตา.
แต่จังหวะเดียวกันนั้นแม่และพ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิตที่รอสังเกตการณ์ก็อดทนไม่ไหว ถึบกับพุ่งเข้ามา ประชิดตัวผู้ต้องหาและตะโกนถามด้วยน้ำเสียงโกรธแค้นว่า ”มึงฆ่าลูกกูทำไม มึงฆ่าลูกกูทำไม“ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันทั้งคู่ออก และรีบนำตัว นายนุขึ้นรถตู้โดยด่วน โดยที่นายนุเองก็ไม่ได้เอ่ยคำขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัว นายอนุวัฒน์ไปยังจุดแรก ซึ่งเป็นจุดที่พบศพของผู้ตาย และเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุได้มีการถอยรถ เพื่อนำร่างไปทิ้งในจุดบริเวณดังกล่าว ซึ่งจุดดังกล่าวจะเป็นลานดินกว้าง มองจากข้างหน้าจะไม่เห็นชัดว่าด้านในโล่ง ตำรวจได้พาเจ้าตัวมาชี้จุดด้านหน้าทางเข้าไปทิ้งศพ ติดกับริมถนน และมีการนำรถกระบะสีดำมาเป็นรถเสมือนจริงคันที่ก่อเหตุ ก่อนจะมีการขับรถเข้าไป ด้านในที่มีการทิ้งศพ หลังจากนั้นจอดรถใกล้กับจุดทิ้งศพ ทางคนก่อเหตุ ได้มีกาานำร่างของผู้ตายลากมาจากเบาะหลังคนขับ เนื่องจากหบังก่อเหตุจนทำให้ผู้ตายเสียชีวิต ทางคนก่อเหตุได้มีกาาย้ายร่างไปไว้ที่เบาะหลัง
ทั้งนี้ทางเจ้าตัวได้มีการลากร่างลงจากรถก่อนจะนำไปทิ้งไว้จุดที่พบร่าง หลังจากนั้นทางเจ้าตัวได้มีการหยิบน้ำยาล้างห้องน้ำยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นน้ำยาบ้างห้องน้ำที่มีการซื้อขายกันทั่วไปตามท้องตลาด ขนาด 900 มล. (ขวดใหญ่) ซึ่งทางเจ้าตัวได้ซื้อและเตรียมการไว้หลังจากที่ผู้ตายเสียชีวิต ทั้งนี้ทางเจ้าตัวได้หยิบน้ำยาล้างห้องน้ำนำไปราดที่บริเวณใบหน้าของผู้ตาย เพื่อจะปกปิดอำพรางไม่ให้คนรู้ว่าผู้ตายคือใครและยากในการค้นหาตัวตน
ขณะที่จุดต่อมาจะเลยจากจุด ที่มีการทิ้งศพไม่ไกล ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดกลับรถหลังจากที่ก่อเหตุ ขณะที่จุดต่อมาก็เป็นจุดกลับรถเช่นกัน ลักษณะคล้ายว่าเป็นจุดที่ทางผู้ก่อเหตุและมีการขับรถวนไปมาเพื่อที่จะดูลาดลาวในการขิงศพรวมไปถึงจุดที่จะย้อนกลับไปบริเวณที่มีการทิ้งศพ
ขณะที่จุดต่อมาจะเป็นจุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดสำคัญอีก 1 จุด ตรวจพิกัดจุดดังกล่าวนั้นจะอยู่ในบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่บางเค็ม ซึ่งห่างจากจุดที่มีการทิ้งศพประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งปั้มน้ำมันดังกล่าวทางคนก่อเหตุ ได้มีการแวะจอดเพื่อที่จะซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำที่ใช้ในการอำพรางศพ ซึ่งจุดดังกล่าวดังกล่าวจะเป็นเส้นถนนที่มุ่งหน้าขึ้นกรุงเทพ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัวลงไปชี้บริเวณหน้าร้านสะดวกชื้อ และมีการให้ถือขวดน้ำยาล้างห้องน้ำที่ใช้ในการก่อเหตุ อำพรางศพ หลังจากนั้นเจ้าตัวได้มีการขับรถยูเทิร์นกลับย้อนไปยังจุดที่มีการทิ้งศพ ซึ่งเชื่อว่าทางผู้ก่อเหตุได้มีการซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำไว้ ในช่วงที่ศพยังอยู่ในรถ
